เลือกคาร์ซีทราคาอย่างไรให้ลูก

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าคาร์ซีทมีไว้ทำอะไร ประวัติศาสตร์ของมันมีเกือบ 100 ปี ประโยชน์หลัก ๆ ก็คือเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ คาร์ซีทนั้นภูกออกแบบมาให้เด็กจนถึงอายุ 12 ขวบเลยทีเดียว หลายคนอาจจะคิดว่าเด็กอายุ 12 ขวบก็โตแล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมชนิดนี้หรอก ต้องขอบอกว่าเราต้องเปลี่ยนคิดนี้เสีย เนื่องจากสรีระของเด็กและผู้ใหญ่ต่างกันมาก ลำพังเข็มขัดนิรภัยไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้แบบร้อยเปอร์เซ็น อีกทั้งการใช้เข็มขัดนิรภัยกับเด็กเล็กจะส่งผลบริเวณศรีษะ คอ และหลังอีกด้วย ทำให้เกิดอาการป่วยเมื่อย เจ็บ ซึ่งจริง ๆ หน้าที่หลักของคาร์ซีทก็จะเป็นแรงถ่วงแรงกระแทกไว้ ไม่ให้เด็กกระเด็นไปโดยส่วนของรถยนต์ ส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน ฉะนั้นผู้ปกครองต้องทำการศึกษาดูว่าคาร์ซีทราคาเท่าไหร่ ทำจากอะไร แต่ก่อนอื่นเรามาดูกันดีกว่าคาร์ซีทมีกี่ประเภท   คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ   คาร์ซีทราคาค่อนข้างแพงสำหรับประเภทเนื่องจากเป็นคาร์ซีทสำหรับเด็ก baby เด็กทารกเลย เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 ปี ในวัยนี้เด็กจะมีความบอบบางมาก เนื่องจากพัฒนาการของร่างกายยังไม่เต็มที่ เรียกได้ว่าเพิ่งเริ่มพัฒนา ดังนั้นวัสดุต่าง ๆ ที่มาทำต้องอ่อนโยน มีการฆ่าเชื้ออย่างเป็นระบบ อีกทั้งต้องสามารถยึดเกาะตัวเด็กได้ดี เพราะเกิดแรงฉุด แรงกระแทกขึ้น  คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางหน้ารถ  ประเภทนี้เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กอายุ 2-11 ปี ซึ่งเป็นวัยที่คุณแม่คุณแม่หายห่วงได้ในระดับนึง เนื่องจากเด็กค่อนข้างมีการเรียนรู้และเริ่มมีวินัยแล้ว จะเป็นคาร์ซีทที่ติดตั้งไว้หลังเบาะ  คาร์ซีทแบบผสม  คาร์ซีทชนิดนี้คือตัวดูโอผสมผสาน เป็นคาร์ซีทราคาเอาเรื่องแต่ก็คุ้มแน่นอน สามาถปรับได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะสำหรับเด็กที่อายุตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 6 ขวบ สามารถใช้ได้ยาว ๆ หากพ่อแม่คนไหนที่กำลังหาอุปกรณ์เสริมที่ลงทุนครั้งเดียว งบถึง คาร์ซีทชนิดนี้คือตัวเลือกที่ดีที่สุด ใช้ได้หลายปี   คาร์ซีทแบบมีพนักพิงหลัง  คาร์ซีทประเภทนี้เหมาะสำหรับเด็กโตแล้ว อายุระหว่าง 4-12 ขวบ จะมีพนักพิงหลังทำให้เด็กนั่งสบายมากกว่าเดิม เหมาะกับเด็กที่ต้องการจะเลิกนั่งคาร์ซีทแล้ว เพราะด้วยการออกแบบมีลักษณะคล้ายเข็มขัดนิรภัยมาก ทำให้เด็กรู้สึกคุ้นชินและไม่อึดอัดหากต้องเปลี่ยน  อย่างไรก็ตามผู้ปกครองต้องมีการไปศึกษาอีกทีนึง ตามท้องตลาดมีหลายแบรนด์และลักษณะให้เลือกเยอะมาก ทางที่ดีที่สุดคือพาลูกไปลองเลยแล้วตัดสินใจซื้อ 

หางานออกแบบภายในอย่างไรจึงจะได้งาน

สำหรับใครที่ต้องการหางานในช่วงนี้ก็คงจะกำลังกังวลกันอยู่ใช่หรือไม่ว่าตนเองจะได้งานตามที่ต้องการหรือไม่ เพราะว่างานในปัจจุบันหายากมากกว่าปกติ ด้วยความที่เป็นช่วงของโควิด- 19 ระบาด จึงส่งผลให้เกิดผลกระทบไปในทุกด้าน และทุกส่วนของเศรษฐกิจเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีสำหรับใครที่อยากหางานออกแบบภายในแนะนำว่าให้ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ รับรองได้เลยว่าคุณจะได้งานอย่างแน่นอน  1.มีประวัติผลงาน  สำหรับใครที่ต้องการหางานออกแบบภายในให้ได้งาน แนะนำว่าคุณควรทำแฟ้มประวัติผลงานเอาไว้เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจว่าชอบผลงานของคุณหรือไม่ เพราะสไตล์ของงานเป็นส่วนสำคัญที่จะบ่งชี้ได้ว่าลูกค้าจะชอบงานของเราหรือไม่ อย่างไร โดยปกติแล้ว การเลือกนักออกแบบตกแต่งภายในจะใช้หลักเกณฑ์นี้เป็นหลัก หากว่าใครไม่มีผลงานทำเป็นแฟ้มเอาไว้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะหางานได้ยากยิ่งขึ้น  2.มีการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ   สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพยายามเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ เพราะในวิชาชีพตกแต่งภายในนั้นมีแหล่งความรู้ และแหล่งที่ต้องศึกษาจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ๆ ของการตกแต่ง รวมไปถึงการใช้สี จับคู่สี โดยการจับคู่สีแต่ละคู่สีย่อมมีความแตกต่างกันออกไป หากว่าไม่ได้มีการตามเทรนด์ย่อมไม่มีทางรู้ได้เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการมุ่งมั่นอยู่สมำเสมอ เพื่อให้ได้มาซึ่งงานที่ตนเองต้องการ  3.เลือกเส้นทางอาชีพ  การเลือกว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ดีหรือว่าเป็นพนักงานออฟฟิศดี ถือเป็นสิ่งที่ต้องเร่งตัดสินใจ เพราะว่าเส้นทางอาชีพที่ดีนั้น จะทำให้คุณทำงานได้อย่างมีความสุข บางคนไม่ชอบทำงานเป็นลูกจ้างของใคร ก็ทำให้ตัดสินใจออกไปเป็นฟรีแลนซ์ แม้จะรับงานได้อย่างอิสระ แต่ก็มั่นใจได้ว่าจะไม่ต้องเป็นลูกจ้างใครเลยทีเดียว  4.พยายามมองหาบริษัทที่ตรงใจ  สำหรับใครที่อยากให้ตนเองทำงานสะดวกใจ และตัดสินใจแล้วว่าการทำงานบริษัทดีต่อตนเองที่สุด แนะนำเลยว่าให้เลือกเป็นการมองหาบริษัทที่ตรงกับใจตนเอง โดยเน้นไปที่การมองหาบริษัทที่มีประกันภัย มีสวัสดิการก็ได้ สวัสดิการที่ควรโฟกัสได้แก่ สวัสดิการการรักษาพยาบาล เพราะว่าช่วงนี้มีโรคระบาดโควิด-19  สวัสดิการประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อความมั่นใจว่าตนเองจะไม่ลำบาก หากว่าต้องออกจากงานนั่นเอง แม้ว่าจะไม่มีความมั่นคงในงานที่ทำ แต่คุณสามารถหาความมั่นคงให้กับตนเองได้  และนี่ก็คือสิ่งที่ควรทำหากว่าอยากหางานออกแบบภายในแล้วได้งานด้านนี้